รวบแล้ว! ผู้ต้องสงสัยทุบพระพุทธรูปองค์ดำ อ.สายบุรี จ.ปัตตานี

707
views

เจ้าหน้าที่ตำรวจได้หลักฐานจากกล้องวงจรปิด ตามรวบผู้ต้องสงสัยทุบพระพุทธรูปองค์ดำที่สายบุรีได้แล้ว เจ้าตัวยังให้การปฏิเสธ อ้างเมายาบ้า แถมเป็นเจ้าของค้อน-ขวานจริง แต่ไม่ได้ก่อเหตุ

มีความคืบหน้ากรณีคนร้ายเข้าไปทุบทำลายพระพุทธรูป “พระพุทธเจ้าองค์ดำ” ภายในวัดวิมลวัฒนาราม หรือวัดหัวเขา ต.ตะลุบัน อ.สายบุรี จ.ปัตตานี จนได้รับความเสียหาย รวมทั้งรูปปั้นและตุ๊กตารอบๆ ฐานพระพุทธรูป เหตุเกิดเมื่อกลางดึกคืนวันที่ 26 ก.ค.ต่อเนื่องเช้ามืดวันที่ 27 ก.ค.

ล่าสุด เจ้าหน้าที่ตรวจยึดวัตถุพยานในละแวกที่เกิดเหตุ เป็นค้อน 1 อัน ขวาน 1 เล่ม มีดด้ามยาว 1 เล่ม และเสื้อยืดแขนยาวสีขาว 1 ตัว จึงนำส่งตรวจพิสูจน์เพื่อหาหลักฐานโยงถึงคนร้าย

ต่อมาเจ้าหน้าที่ได้ข้อมูลเป็นภาพจากกล้องโทรทัศน์วงจรปิดเพิ่มเติม ทำให้ทราบตัวผู้ต้องสงสัยใส่เสื้อยืดแขนยาวสีขาว อาศัยอยู่ภายในวัด และได้เชิญตัวมาสอบถามแล้ว คือ นายเกรียงศักดิ์ เทพราชา อายุ 28 ปี

นายเกรียงศักดิ์ ให้การกับเจ้าหน้าที่ว่า ได้ลักลอบออกมาจากค่ายบำบัดยาเสพติด กองร้อยทหารพรานที่ 4409 หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 44 ก่อนกำหนด โดยเมื่อเวลาประมาณ 22.10 น. วันที่ 26 ก.ค. ได้สวมเสื้อแขนยาวสีขาว กางเกงขาสั้น เดินออกจากประตูด้านหน้าวัด จากนั้นได้โทรศัพท์ให้เพื่อนชื่อ นายยี ซึ่งเป็นคนในชุมชนมารับ เพื่อไปเสพยาบ้าและดื่มเบียร์

เวลาประมาณ 01.30 น. หลังจากเสพยาและดื่มเบียร์จนมึนเมา ได้กลับเข้าไปในวัด โดยมีเพื่อนชื่อนายยีขับรถจักรยานยนต์คันเดิมมาส่งที่บริเวณหน้าวัด และนายเกรียงศักดิ์ได้กระโดดข้ามกำแพงเข้าไปภายในวัด เพื่อกลับที่พัก

นายเกรียงศักดิ์ ยืนยันว่า ไม่ได้ทุบทำลายพระพุทธรูป แต่ยอมรับว่าทั้งค้อน ขวาน และมีดด้ามยาวเป็นของตนจริง จากนั้นเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน สภ.สายบุรี ได้เชิญตัวนายเกรียงศักดิ์ ไปโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชสายบุรี เพื่อตรวจหาสารเสพติดภายในร่างกาย ผลตรวจปรากฏว่ามีสารเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมแฟตามีน) หรือยาบ้า จึงนำตัวส่งพนักงานสอบสวนเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

สำหรับเหตุการณ์ทุบทำลายพระพุทธรูปนั้น เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน สภ.สายบุรี ยังคงให้น้ำหนักไปที่นายเกรียงศักดิ์ ว่าน่าจะมีส่วนเกี่ยวข้อง แม้เจ้าตัวจะยังปฏิเสธก็ตาม เนื่องจากพฤติกรรมสอดคล้องกับภาพที่ปรากฏในกล้องวงจรปิด ซึ่งใกล้เคียงกับช่วงเวลาที่เกิดเหตุ โดยมีนายเกรียงศักดิ์เพียงคนเดียวเท่านั้นที่เข้า-ออกวัดช่วงกลางดึกที่เกิดเหตุทุบทำลายพระพุทธรูป แต่จนถึงขณะนี้ยังไม่มีการแจ้งข้อกล่าวหา ยกเว้นเรื่องยาเสพติด

ไทม์ไลน์จากกล้องวงจรปิดของวัด ตั้งแต่เวลาช่วงเย็นของวันที่ 26 ก.ค. ถึงช่วงเช้าของวันที่ 27 ก.ค. พบภาพดังนี้

เวลา 16.17 น. นายเกรียงศักดิ์ กลับมาจากค่ายบำบัดยาเสพติด โดยมี นายเจะหลง เปาะลิง พ่อเลี้ยง ขับรถจักรยานยนต์มาส่งที่วัดวิมลวัฒนาราม

เวลา 16.41 น. พ่อเลี้ยงขี่รถจักรยานยนต์ออกจากวัด

เวลา 16.43 น. นายเกรียงศักดิ์ ขับรถยนต์เก๋งยี่ห้อโตโยต้า รุ่นอัลติส สีขาว ออกไปจากวัด มุ่งหน้าไปทางหอนาฬิกา

เวลา 19.13 น. นายเกรียงศักดิ์ ขับรถยนต์เก๋งคันเดิมกลับเข้าวัด

เวลา 22.10 น. นายเกรียงศักดิ์ เดินออกจากวัด โดยออกทางประตูวัด จากนั้นได้เลี้ยวขวา เดินจนสุดกำแพงวัด แล้วข้ามถนนไปอีกฝั่งหนึ่ง

เวลา 01.29 น. นายเกรียงศักดิ์ กลับมาที่วัด โดยมีเพื่อนเป็นผู้ชายขับรถจักรยานยนต์มาส่งบริเวณริมกำแพงวัด ห่างจากประตูวัด 30 เมตร จากนั้นเพื่อนได้ขับขี่รถจักรยานยนต์ออกไป นายเกรียงศักดิ์ได้ปีนกำแพงข้ามเข้าไปในวัด

เวลา 06.20 น. ผู้หญิงสูงอายุขี่รถจักรยานยนต์เข้าไปในวัดเพื่อกวาดขยะและรดน้ำต้นไม้ ซึ่งทำเป็นประจำ และเป็นคนแรกที่ได้เห็นพระพุทธรูปเสียหาย จึงได้เดินไปถามเจ้าหน้าที่ทหารที่ประจำการอยู่ในวัด ฝ่ายทหารจึงได้แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าตรวจสอบ

ภาพจากกล้องวงจรปิดทั้งหมด ไม่มีภาพขณะคนร้ายทุบทำลายพระพุทธรูป เนื่องจากมุมกล้องส่องไปไม่ถึง นายเกรียงศักดิ์จึงยังมีสถานะเป็นผู้ต้องสงสัยอยู่ และยังไม่มีการแจ้งข้อหาใดๆ หลังจากนี้ต้องรอสอบปากคำเพิ่มเติม และรอผลตรวจทางนิติวิทยาศาสตร์เพื่อระบุตัวคนร้ายอีกครั้งหนึ่ง

อ่านข่าวต้นฉบับ