5 สมุนไพรไทย ช่วยบรรเทาโรคความดันโลหิตสูง

1327
views

โรคความดันโลหิตสูง เป็นโรคเรื้อรังที่ค่อนข้างอันตราย หากปล่อยไว้โดยไม่ได้รักษา เพราะอาจนำมาซึ่งโรคเส้นเลือดในสมองแตก อาจทำให้เป็นอัมพาตหรือเสียชีวิตได้ การรักษาด้วยสมุนไพรต่างๆ ก็เป็นอีกทางเลือกที่ดีมาก สมุนไพรไทย 4 ชนิด ที่มีสรรพคุณช่วยลดความดันโลหิตสูง มีดังนี้


1. กระเจี๊ยบแดง (Roselle)

ส่วนที่นำมาใช้คือ ฐานรองกลีบดอก ซึ่งมีสารสีแดงกลุ่มแอนโทไซยานิน (anthocyanins)

ผลการศึกษาวิจัยทางคลินิกพบว่าการใช้กระเจี๊ยบแดงแห้ง ขนาด 2 -10 กรัมต่อวัน ต้มเป็นน้ำดื่ม หรือรับประทานในรูปของยาเม็ดกระเจี๊ยบแดง ขนาด 450 มิลลิกรัมต่อวัน (มีสารแอนโทไซยานินอย่างน้อย 250 มิลลิกรัม) สามารถลดความดันโลหิตช่วงหัวใจบีบตัว และช่วยขับปัสสาวะได้

กระเจี๊ยบแดงสามารถลดความดันโลหิตด้วยกลไกการขับปัสสาวะ จึงควรหลีกเลี่ยงการรับประทานกระเจี๊ยบแดงร่วมกับยาแผนปัจจุบันที่มีฤทธิ์ขับปัสสาวะเช่นกัน เพราะจะทำให้ความดันลดต่ำเกินไป และไม่ควรใช้ในผู้ป่วยโรคไตหรือมีความผิดปกติของไต

ขึ้นฉ่าย
2. ขึ้นฉ่าย (Celery)

ขึ้นฉ่าย เป็นสมุนไพรที่ชาวเอเชียนำมาใช้เป็นยาลดความดันโลหิตต่อเนื่องกันมายาวนานกว่า 2,000 ปี โดยชาวจีนและเวียดนามเชื่อว่าการรับประทานขึ้นฉ่ายวันละ 4 ต้น จะทำให้ความดันโลหิตเป็นปกติ

การศึกษาวิจัยสารสกัดจากเมล็ดขึ้นฉ่ายกับฤทธิ์ทางเภสัชวิทยา พบว่าสารสกัดจากเมล็ดขึ้นฉ่ายมีฤทธิ์ในการลดความดันในผู้ร่วมทดลองและสัตว์ทดลองอย่างมีนัยสำคัญ

โดยนักวิจัยกล่าวว่าสารในขึ้นฉ่ายอาจลดความดันโลหิตด้วยการลดการสะสมของไขมันภายในหลอดเลือดและเพิ่มความยืดหยุ่นของผนังหลอดเลือด


3. มะรุม (Moringa)

มะรุมเป็นผักที่มีประโยชน์มากสามารถกินได้แทบทุกส่วน ทั้ง ใบอ่อน ช่อ ฝักอ่อน ซึ่งมีฤทธิ์ช่วยในเรื่องลดความดันโลหิต แก้ท้องผูก บำรุงกำลัง และบำรุงสายตา

ในส่วนของฤทธิ์ลดความดันโลหิต งานวิจัยพบว่า สารสกัดในกลุ่ม glycosides ที่ได้จากมะรุมส่วนต่างๆ เช่น ใบ ผล ฝัก สามารถลดความดันในสัตว์ทดลองได้

อย่างไรก็ตาม พบว่าผู้ป่วยบางรายมีค่าเอนไซม์ตับเพิ่มขึ้น หลังจากที่ใช้มะรุมติดต่อกันเป็นเวลานาน ดังนั้น เพื่อความปลอดภัย จึงควรระมัดระวังการรับประทานมะรุมไม่ให้มากเกินไป


4. ใบบัวบก (Gotu Kola)

การใช้บัวบกเพื่อลดความดันโลหิต มีใช้ในรูปแบบของยาตำรับที่มีใบบัวบกเป็นส่วนประกอบ 10 มิลลิกรัมต่อเม็ด มีสารสำคัญคือ สารกลุ่มไทรเทอพีนอยด์ (triterpenoid fraction)

โดยแนะนำให้ผู้ป่วยความดันโลหิตสูง รับประทานวันละ 2 เม็ด วันละ 3 ครั้ง เป็นเวลา 6 สัปดาห์ พบว่ามีฤทธิ์ลดความดันโลหิตได้

อย่างไรก็ตาม หากรับประทานในขนาดสูงเป็นเวลานานอาจพบความเป็นพิษต่อตับได้

นอกจากนี้ การใช้ร่วมกับยาลดความดันบางชนิด เช่น enalapril, amlodipine อาจทำให้ระดับยาในเลือดสูงกว่าปกติ เนื่องจากบัวบกยับยั้งเอนไซม์ที่ใช้ในการกำจัดยาดังกล่าวออกจากร่างกาย

ไม่ควรใช้ร่วมกับยาที่มีฤทธิ์ต้านการเกาะกลุ่มของเกล็ดเลือด (antiplatelet drug) เช่น aspirin และยาละลายลิ่มเลือด (anticoagulant) เช่น warfarin เพราะอาจเสริมฤทธิ์กันจนเกิดอันตรายต่อร่างกายได้


5. กระเทียม (Garlic)

สรรพคุณต่างๆ มากมายของกระเทียม หนึ่งในนั้นคือช่วยรักษาโรคความดันโลหิตโดยวิธีการรับประทานให้ซอยกระเทียมสดประมาณครึ่งช้อนชา รับประทานพร้อมอาหารวันละ 2-3 ครั้ง หรือจะรับประทานสดหลังมื้ออาหารก็ได้ แต่ไม่ควรรับประทานตอนท้องว่าง เพราะกระเทียมมีฤทธิ์ร้อนอาจทำให้แสบกระเพาะได้

ความดันโลหิตสูง เป็นโรคที่มักจะเป็นเรื้อรังและส่งผลเสียต่อสุขภาพ ในเบื้องต้น อาจลดความดันด้วยการปฏิบัติตัวให้เหมาะสม เช่น ออกกำลังกาย ควบคุมน้ำหนัก ควบคุมอาหารที่รับประทาน ร่วมกับการรับประทานสมุนไพรเหล่านี้

แต่หากรับประทานยาลดความดันโลหิตที่สั่งจ่ายโดยแพทย์อยู่แล้ว เพื่อความปลอดภัย ควรปรึกษาแพทย์ก่อนที่จะรับประทานสมุนไพรเหล่านี้ควบคู่ไปด้วย

อ่านต้นฉบับ