ต้องยอมรับว่า วิถีปกติใหม่ หรือ New Normal ใช้ชีวิตอย่างรับผิดชอบมากขึ้น

644
views
วิถีปกติใหม่

ต้องยอมรับว่า วิถีปกติใหม่ หรือ New Normal ในอีกด้านก็เป็นเรื่องบวกสำหรับการใช้ชีวิตอย่างรับผิดชอบมากขึ้น

ไม่ใช่แค่เรื่อง Distancing เท่านั้น แต่ยังรวมถึงการจัดระบบการใช้ชีวิตที่ปลอดภัยจากเดิมแค่สุขนิสัย หรือนิสัยที่ส่งผลดีต่อสุขภาพหรือสุขอนามัย คือ การมีอนามัยที่ดี เป็น สุขวิถีหรือวิถีที่ทำให้ชีวิตปลอดภัย มีอนามัยดี และมีความสุขด้วย แอปพลิเคชันที่เคยเป็นแค่ระบบการนัดหมายจองคิวล่วงหน้า อย่าง QueQ แอป มียอดดาวน์โหลดเพิ่มขึ้นกว่าเท่าตัว เรียกว่า ทะลุ 3 ล้านดาวน์โหลด

เพราะวิถีนิว นอร์มอล ที่ไม่ต้องการให้คนไปรอ หรือรวมตัวกันมากๆ ในสถานที่ต่างๆ ทั้งร้านอาหาร ตลาดสด ร้านขายเสื้อผ้า สินค้าแฟชั่น ธนาคาร โรงพยาบาล จุดรับบริจาค หรือแม้แต่การสั่งอาหารแบบดีลิเวอรี ที่เจ้าของแอป QueQ ได้เพิ่มระบบแจ้งเตือนเมื่ออาหารเสร็จ เพื่อลดการแออัดในการรอรับอาหารไม่ว่าจะเป็นพนักงานรับส่งอาหารหรือรับอาหารด้วยตนเอง

 วิถีปกติใหม่

No More Que, No More Crowd, No More Cash ไม่มีคิว ไม่มีการยืนรอเป็นกลุ่มรวมกันเยอะๆ เพื่อลดการแพร่กระจายของเชื้อโรคหลีกเลี่ยงการใช้เงินสด ซึ่งเป็นแนวทางสำคัญในการสกัดการแพร่ระบาดของโรคที่หลังจากนี้มาตรการต่างๆในวิถีนิว นอร์มอล ประชาชนจะต้องให้ความร่วมมือปฏิบัติอย่างเคร่งครัดมากขึ้นหากต้องการให้รัฐบาลมีมาตรการผ่อนปรนมากขึ้น

พญ.พรรณพิมล วิปุลากร อธิบดีกรมอนามัย บอกว่าต้องยอมรับว่า หลังจากนี้เป็นต้นไปวิถีการดำเนินชีวิตของเราทุกคนจะไม่กลับมาเหมือนเดิมอีกแล้ว ทั้งการกินการอยู่ การใช้ชีวิตที่ทุกคนต้องปรับตัว ไม่ว่าจะเป็นผู้ประกอบการร้านค้า ไปจนถึงประชาชนทั่วไป

วิถีปกติใหม่

” กิจการหลายแห่งกลับมาให้บริการและประชาชนก็เริ่มออกมาใช้ชีวิตในพื้นที่สาธารณะมากขึ้น ในส่วนของกรมอนามัยได้ลงพื้นที่เพื่อขอความร่วมมือประชาชนและผู้ประกอบการให้ปฏิบัติตามมาตรการหลักในการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 และปรับตัวให้เข้ากับวิถีปกติใหม่ หรือ New Normal ตามมาตรฐานของกรมอนามัยโดยเน้นย้ำเรื่องความสะอาดและสุขอนามัย เป็นหลัก” คุณหมอพรรณพิมลบอก

สำหรับจุดที่กรมอนามัยให้ความสำคัญ และถือเป็นจุดที่อาจมีความเสี่ยงต่อการสัมผัสโรคหรือทำให้เกิดการแพร่ระบาดของโรค อธิบดีกรมอนามัย ให้ข้อมูลว่า หลักๆ คือบริเวณหรือจุดที่มีการสัมผัสร่วมกัน เช่น ประตู ห้องน้ำ ก๊อกน้ำ ราวบันได ปุ่มกดลิฟต์ โต๊ะ เก้าอี้ ซึ่งในส่วนนี้ได้เน้นย้ำให้ผู้ประกอบการต้องทำความสะอาดบ่อยขึ้น หลักๆก็น่าจะทุกๆ 1-2 ชั่วโมง

วิถีปกติใหม่

“คิดว่าตอนนี้เรื่องการสวมหน้ากากอนามัยเจลแอลกอฮอล์ล้างมือ รวมไปถึงการเว้นระยะห่างประชาชนเริ่มปรับตัวได้มากขึ้น ในส่วนของผู้ประกอบการจะเป็นห้างสรรพสินค้า ร้านค้า หรือซุปเปอร์มาร์เกต รวมไปถึงสถานที่ต่างๆ เช่น ธนาคาร ร้านตัดผม ส่วนใหญ่จะมีจุดล้างมือด้วยสบู่ หรือเจลแอลกอฮอล์ ให้บริการลูกค้าอยู่แล้วและพนักงานเองก็มีกฎ ให้สวมหน้ากากอนามัย ขณะให้บริการ สิ่งที่กรมอนามัยให้ความสำคัญมากไปกว่าจุดเหล่านี้ คือเรื่องของการระบายอากาศที่ดีและการจัดการขยะที่ถูกสุขลักษณะ ซึ่งเราย้ำกับผู้ประกอบการโดยเฉพาะร้านอาหารว่าต้องจัดการกำจัดขยะทุกวัน อย่าให้มีมูลฝอยตกค้างจนกลายเป็นแหล่งรังโรค”

คุณหมอพรรณพิมล ยังบอกด้วยว่า ในการไปใช้บริการตามสถานที่ต่างๆ วิถีชีวิตใหม่ที่ทุกคนต้องเรียนรู้และปรับตัว คือการนัดคิวล่วงหน้าหรือปรับเวลาการให้บริการให้สั้นลงและลดการสัมผัสด้วยการให้ชำระเงินผ่านระบบออนไลน์เป็นมาตรการลดความแออัด ลดการสัมผัสโรค

วิถีปกติใหม่

ส่วนผู้ที่ชื่นชอบการออกกำลังกายไม่ว่าจะเป็นการเดิน วิ่ง หรือปั่นจักรยาน อธิบดีกรมอนามัยแนะนำว่า ยังสามารถออกกำลังกายได้ตามปกติ แต่ต้องปฏิบัติตามกฎระเบียบของสถานที่ที่ไปออกกำลังกาย เช่น สวนสาธารณะต่างๆอย่างเคร่งครัด ผ่านจุดคัดกรองเว้นระยะห่าง หรือถ้าสามารถปรับรูปแบบการออกกำลังกายด้วยวิธีง่ายๆ ที่ทำเองได้ที่บ้าน เช่น เดินขึ้นลงบันได เดินรอบบริเวณที่พักอาศัย ทำงานบ้าน เล่นโยคะ ก็จะช่วยลดความเสี่ยงลงได้มาก และไม่ว่าจะไปที่ไหน เมื่อกลับถึงบ้านต้องอาบน้ำ เปลี่ยนเสื้อผ้าก่อนทำกิจกรรมอื่น

“จากการคาดการณ์ของผู้เชี่ยวชาญทั่วโลกจำนวนผู้ติดเชื้อโรคโควิด-19 จะยังคงเพิ่มขึ้นหรือยังคงมีผู้ติดเชื้อเพิ่มไปตลอด จนกว่าจะถึงวันที่มีวัคซีนป้องกันโรคได้ จึงอยากขอความร่วมมือทุกคนและสถานประกอบการทุกแห่ง ปรับรูปแบบการใช้ชีวิตใหม่ ให้เป็นวิถีชีวิตแบบ New Normal อีกสักระยะหนึ่ง เพื่อคุ้นเคยจนกลายเป็นวิถีชีวิตปกติซึ่งจะทำให้ทุกคนสามารถใช้ชีวิตประจำวันได้อย่างปลอดภัยจากโรคโควิด-19 แน่นอน” อธิบดีกรมอนามัยทิ้งท้าย.

ที่มา : ไทยรัฐ