สาวน้อยวัย 14 เพชรบูรณ์ จยย.ชนสมองตาย พ่อแม่ใจบุญไม่ลังเลบริจาคอวัยวะช่วยคนได้ 5 ชีวิต

753
views
สู่ภพภูมิที่ดี

พ่อแม่ใจสลาย! ด.ญ.14 จยย.ชนสมองตาย บริจาคอวัยวะช่วยคนได้ 5 ชีวิต แม่เผยคำพูดเป็นลาง ไม่คิดว่าสิ่งที่ลูกเคยพูดไว้ จะเกิดขึ้นเร็วแบบนี้

เมื่อวันที่ 29 พ.ค. ที่โรงพยาบาลเพชรบูรณ์ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า มีผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุบริจาคอวัยวะ ประกอบด้วยหัวใจ 1 ดวง ดวงตา 2 ข้าง และไต 2 ข้าง ให้แก่บุคคลอื่น โดยจะมีคณะแพทย์จากสภากาชาดไทย เดินทางมาเพื่อผ่าตัดเอาอวัยวะ และทางโรงพยาบาลเพชรบูรณ์ พร้อมด้วยศูนย์บริจาคอวัยวะ รวมทั้งสภากาชาดไทยได้มอบประกาศเกียรติคุณ ให้แก่พ่อแม่ของผู้บริจาค

นายนิยม ดวงดารา อายุ 45 ปี ชาว ต.เขาค้อ อ.เขาค้อ จ.เพชรบูรณ์ เปิดเผยว่า ผู้ที่เสียชีวิตและบริจาคอวัยวะดังกล่าว เป็นลูกสาวของตนเอง ชื่อด.ญ.มัลลิกา ดวงดารา อายุ 14 ปี นักเรียนโรงเรียนบ้านทุ่งสมอ ต.ทุ่งสมอ อ.เขาค้อ โดยเมื่อวันที่ 24 พ.ค. ที่ผ่านมา

ด.ญ.มัลลิกาขี่รถจักรยานยนต์ จะไปรับใบรายงานที่บ้านเพื่อนมาทำ เพื่อเรียนออนไลน์ แต่ประสบอุบัติเหตุรถจักรยานยนต์เสียหลักล้ม และถูกรถยนต์ที่วิ่งตามมาชนซ้ำจนได้รับบาดเจ็บสาหัส ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลเขาค้อ และถูกส่งต่อมาที่โรงพยาบาลเพชรบูรณ์ ในสภาพที่อาการสาหัส และได้รับแจ้งจากทางแพทย์ว่าสมองของลูกสาวตาย ซึ่งทางการแพทย์เรียกว่าเสียชีวิตแล้ว

บริจาคอวัยวะช่วยคน

ต่อมามีเจ้าหน้าที่พยาบาลมาชักชวนให้บริจาคอวัยวะของลูกสาว ซึ่งมีหลายส่วนที่น่าจะนำไปช่วยชีวิตคนอื่นๆ ได้หลายชีวิต ตนจึงตอบตกลงทันที โดยไม่ลังเล เพราะลูกสาวเป็นคนจิตใจดีชอบช่วยเหลือคนอื่นอยู่แล้ว ตนรู้สึกดีใจที่ลูกได้สร้างบุญสร้างกุศลด้วยการต่อชีวิตให้คนอื่น แต่ตนไม่คิดว่าสิ่งที่ลูกเคยพูดไว้กับตนมันจะเกิดขึ้นเร็วแบบนี้

เนื่องจากก่อนหน้านี้แม่ของตนป่วย ตนมานอนเฝ้าแม่ที่โรงพยาบาลหลายเดือน และพาน้องมัลลิกา ซึ่งขณะนั้นเรียนอยู่ชั้นป.5-ป.6 มาด้วย และเห็นคนเจ็บคนป่วยคนเสียชีวิต และถามตนว่าคนเขาป่วยเป็นอะไร แล้วถ้าจะบริจาคอวัยวะจะบริจาคอะไรได้บ้าง

ตนก็ตอบลูกว่าบริจาคได้หมดทั้งร่างกาย อันไหนที่ใช้ได้ แต่ต้องถามหมอ เพราะเราไม่รู้ว่าเมื่อเสียชีวิตแล้วจะมีอวัยวะส่วนไหนที่ยังใช้ได้ ลูกสาวบอกตนว่า ถ้าตายแล้วพ่อช่วยบริจาคอวัยวะให้ด้วย เขาพูดเพราะจิตใจเขาเป็นกุศล แต่ไม่คิดว่าสิ่งที่ลูกเคยพูดจะเกิดขึ้นเร็วแบบนี้

บริจาคอวัยวะช่วยคน

ด้านนพ.ศิริชัย แมงมีนาม ประธานองค์กรแพทย์และหัวหน้าศูนย์ประกันสุขภาพโรงพยาบาลเพชรบูรณ์ เปิดเผยว่า หลังจากทราบว่า ผู้เสียชีวิตมีอาการสมองตาย จึงแจ้งญาติให้ทราบ โดยทางการแพทย์ถือว่าเสียชีวิตแล้ว แต่อวัยวะบางส่วนยังทำงานอยู่ จึงแนะนำญาติถึงโครงการบริจาคอวัยวะเพื่อช่วยเหลือบุคคลอื่น

ต่อมาญาติยินยอม จึงประสานไปยังทีมแพทย์จากสภากาชาดไทย เพื่อมาผ่าตัดนำอวัยวะไปช่วยเหลือบุคคลอื่น แต่เนื่องจากช่วงนี้อยู่ในสถานการณ์ที่มีโรคระบาดโควิด-19 ทำให้ขบวนการต่างๆ ต้องใช้เวลานาน เพราะต้องตรวจคัดกรองก่อนว่า ผู้บริจาคอวัยวะไม่ได้มีภาวะติดเชื้อ ซึ่งต้องใช้เวลาอย่างน้อยหนึ่งวัน กว่าที่ผลจะออกมาว่าน้องไม่มีสภาวะติดเชื้อโควิด-19 จึงจะสามารถที่จะดำเนินขั้นตอนรับอวัยวะได้ตามปกติ

โดยอวัยวะที่ได้ ประกอบด้วยหัวใจ 1 ดวง ดวงตา 2 ข้าง ไต 2 ข้าง ซึ่งทั้งหมดสามารถนำไปช่วยชีวิตบุคคลอื่นได้อีกถึง 5 ชีวิต ถือว่าเป็นกุศลที่ยิ่งใหญ่ เป็นเรื่องที่น่ายินดี และขอกุศลที่ผู้เสียชีวิตได้บริจาคอวัยวะในครั้งนี้จงไปสู่ภพภูมิที่ดี

| ดูข่าวต้นฉบับ