อริยสัจจ์ : เห็นความจริงอันประเสริฐ ที่จะทำให้คุณมีชีวิตที่ดี และมีมุมมองต่อโลกที่สดใสขึ้น

1644
views
ความจริงของโลกและชีวิต

อริยสัจจ์ ความจริงอันสูงสุด ที่มีอยู่ในทุกสรรพชีวิตในสังสารวัฏฏ์ เป็นดั่งปริศนาดำมืดของทุกชีวิตที่เกิดมาบนโลกใบนี้ เมื่อยังไม่ทราบ จึงทำให้ลุ่มหลงไปตามกระแสกิเลส เวียนว่ายตายเกิดในสังสารวัฏอย่างไม่รู้จบสิ้น

การเห็นอริยสัจจ์ : การเห็นเกี่ยวกับความจริงของโลกและชีวิตว่าเป็นอย่างไร เพื่อจะได้เข้าใจแก่นแท้ของชีวิต เป็นความจริงที่มีอยู่คู่โลก แต่ไม่มีใครเห็น จนกระทั่งพระสัมมาสัมพุทธเจ้าตรัสรู้ คือทั้งรู้ทั้งเห็น แล้วทรงชี้ให้ดู ได้แก่

อิติปิโส ภะคะวา อะระหัง

๑. ทุกข์ ทั้งหลายจากความไม่สบายกาย ไม่สบายใจ แบ่งออกเป็น ๒ ลักษณะ

– ทุกข์กาย คือ ความทุกข์ที่เกิดจากตัวเอง ได้แก่ ความเกิด ความแก่ ความตาย ความทุกข์ ประเภทนี้ไม่มีใครหลีกเลี่ยงได้

– ทุกข์ใจ ความทุกข์ที่เกิดจากเหตุภายนอก รูป เสียง กลิ่น รส และสัมผัส เหล่านั้นมาเป็นอารมณ์ เมื่อกระทบแล้วทำให้เกิดอาการทางใจ เช่น น้อยใจ ท้อใจ กลุ้มใจ คร่ำคราญ ร่ำไรรำพัน ฯลฯ ความทุกข์ประเภทนี้ ผู้มีปัญญาสามารถหลีกเลี่ยงได้

๒. สมุทัย สาเหตุแห่งทุกข์ทั้งหลาย พระพุทธเจ้าทรงค้นพบความจริงว่า ความทุกข์เกิดจาก ตัณหา (ความดิ้นรนทะยานอยากในใจ) และทรงแยกอาการออกเป็น ๓ ลักษณะ

ความจริงของโลกและชีวิต

กามตัณหา คือ ความอยากได้ หรืออยากยินดีในรูป เสียง กลิ่น รส และสัมผัส เมื่อไม่ได้ก็เกิดเป็นความทุกข์ ทั้งกายและใจ

ภวตัณหา คือ ความอยากมีอยากเป็น เมื่อใจเกิดความอยากมีอยากเป็นตามที่ตนปรารถนาแล้วไม่ได้ ความทุกข์ก็เกิดขึ้นกับกายและใจของผู้นั้น

วิภวตัณหา คือ ความไม่อยากมีไม่อยากเป็น เมื่อพ้นสภาพที่เป็นอยู่ไม่ได้ กายและใจก็เป็นทุกข์ เช่น อยากไม่เป็นคนจน อยากไม่เป็นคนแก่ อยากไม่เป็นคนขี้โรค เป็นต้น ความทุกข์ก็เกิดขึ้นกับใจของผู้นั้น

๓. นิโรธ ความดับทุกข์ หรือดับปัญหาได้สิ้นเชิง หรือ ภาวะที่ไม่ความทุกข์ ภาวะที่ไม่มีปัญหา หรือ ภาวะที่เป็นความสุขสงบ หรือภาวะเจริญก้าวหน้า หรือประสบความสำเร็จในชีวิต

๔. มรรค เป็นหนทางหรือวิธีการปฏิบัติเพื่อให้พ้นจากความทุกข์ หรือปัญหาที่เกิดขึ้นในชีวิตประจำวัน ด้วยการปฏิบัติตามทางมัชฌิมาปฏิปทา ๘ ประการ คือ สัมมาทิฏฐิ, สัมมาสังกัปปะ, สัมมาวาจา, สัมมากัมมันตะ, สัมมาอาชีวะ, สัมมาวายามะ, สัมมาสติ และสัมมาสมาธิ

ตัดขาดกันไปจากชีวิต

คนทั่วไปแต่เห็นอริยสัจจ์ได้แต่เพียงคิดและรู้อย่างผิวเผินเท่านั้น ฉะนั้นจึงประสบกับความทุกข์ทั้งกายและใจในการดำรงชีวิตคละเคล้ากันไปตามความมากน้อยแห่งเหตุและปัจจัยที่กระทำผู้ที่เห็นอริยสัจจ์ จะเห็นถึงสภาพที่แท้จริงของชีวิตว่ามีแต่ความทุกข์ เห็นถึงเหตุของความทุกข์เหล่านั้นอย่างชัดเจนว่ามาจากความดิ้นรนทะยานอยากในใจ เห็นแนวทางที่จะกำจัดสาเหตุแห่งทุกข์ทั้งหลาย

เหล่านั้นโดยปฏิบัติตามแนวทางแห่งอริยมรรคมีองค์ ๘ และเห็นอย่างชัดแจ้งถึงสภาพที่หมดทุกข์แล้ว่า มีอยู่จริงและมีความสุขมากเพียงใด จึงเป็นคนระมัดระวังไม่ประมาททั้งกาย วาจา ใจ มั่นคงอยู่ในความดี เพื่อกำจัดกิเลสให้หมดบางเบา หรือหมดไป ตามแนวทางที่ได้เห็นแล้วนั้น