ชัตดาวน์กระบี่! ปิดห้าง-ร้าน ใช้ยาแรง ฝ่าฝืนทั้งจำ-ปรับ

20925
views
ชัตดาวน์กระบี่!

พ.ต.ท.หม่อมหลวง กิติบดี ประวิตร ผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่ ประกาศปิดพื้นที่เสี่ยงการแพร่ระบาด COVID-19 เนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัส COVID-19 มีความรุนแรงมากยิ่งขึ้นโดยมีผู้ติดเชื้อเพิ่มมากขึ้นทุกวันทำให้ความจำเป็นต้องกำหนดมาตรการเพื่อการควบคุมและการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคอย่างเร่งด่วนฉะนั้นอาศัยอำนาจตามความมาตรา 35 (1) แห่งพระราชบัญญัติโรคติดต่อ พ.ศ. 2558

ชัตดาวน์กระบี่!

โดยคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดกระบี่ มีมติเมื่อวันที่ 23 มีนาคม 2563 เวลา 15:00 น. ให้สถานที่ในพื้นที่ที่เสี่ยงต่อการแพร่ระบาดในพื้นที่จังหวัดกระบี่ ถือปฏิบัติเป็นการชั่วคราว ตั้งแต่วันที่ 23 มีนาคม 2563 ถึงวันที่ 15 เมษายน 2563 ดังนี้…

1.ให้ปิดสถานที่บริการสักหนังลำตัวหรือเจาะส่วนหนึ่งส่วนใดของร่างกาย

2. ปิดโต๊ะสนุกเกอร์ บิลเลียด หรือการเล่นอื่นๆ ในทำนองเดียวกัน

3. งดให้บริการสำหรับผู้ประกอบการธุรกิจดำน้ำ

4. ร้านอาหาร และเครื่องดื่ม ให้เปิดเฉพาะการจำหน่ายอาหาร เครื่องดื่ม เพื่อนำกลับไปบริโภคที่อื่น สำหรับร้านอาหาร และร้านเครื่องดื่มในโรงแรมให้บริการเฉพาะผู้ที่พักอาศัยในโรงแรมเท่านั้น

5. ห้างสรรพสินค้า ศูนย์การค้า ร้านค้าปลีกขนาดใหญ่ หรือห้างร้านที่มีร้านค้าย่อย ในอาคาร หรือบริเวณเดียวกัน ให้เปิดเฉพาะซุปเปอร์มาร์เก็ต (supermarket) ร้านขายยา หรือขายสินค้าเบ็ดเตล็ดที่จำเป็นต่อการดำรงชีวิต สำหรับร้านอาหาร และร้านเครื่องดื่มให้เปิดเฉพาะการจำหน่ายอาหาร และเครื่องดื่มเพื่อนำกลับไปบริโภคที่อื่น

ชัตดาวน์กระบี่!

6. ปิดสนามยิงปืน

7. ตลาด ให้เปิดเฉพาะการจำหน่ายอาหารสด อาหารแห้ง อาหารเครื่องปรุงสำเร็จ เพื่อนำกลับไปบริโภคที่อื่น อาหารสัตว์ ร้านขายยา และสินค้าเบ็ดเตล็ด ที่จำเป็นต่อการดำรงชีวิต

8. ปิดพื้นที่นั่ง หรือยืนรับประทานอาหาร เครื่องดื่ม ในร้านสะดวกซื้อ

9. ปิดสถานที่ออกกำลังกาย

10. ปิดสระว่ายน้ำ (รวมถึงสระว่ายน้ำของหมู่บ้าน หรืออาคารชุดที่อยู่อาศัย)

ชัตดาวน์กระบี่!

11. งดให้บริการเครื่องเล่นในห้างสรรพสินค้า สนามเด็กเล่น สนามกีฬา

12. ปิดแหล่งท่องเที่ยวที่มีคนไปจำนวนมาก ได้แก่ สระมรกต น้ำตกร้อน น้ำพุร้อนเค็ม อำเภอคลองท่อม ท่าปอมคลองสองน้ำ อำเภอเมืองกระบี่ และห้ามเล่นน้ำบริเวณสระธารโบกขรณีอำเภออ่าวลึก

ผู้ใดฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตามต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับตามมาตรา 12 แห่งพระราชบัญญัติโรคติดต่อ พ.ศ. 2558 ทั้งนี้ตั้งแต่วันที่ 23 มีนาคม 2563 เป็นต้นไป

| อ่านข่าวต้นฉบับ